การพัฒนาหลักสูตรและการใช้หลักสูตรสถานศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
จังหวัดพังงา
ผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร
ต้องมีการร่วมมือกันหลายฝ่ายเพื่อให้ผลงานออกมาตรงเป้าหมาย
ได้แก่
1.
นักบริหารหลักสูตร
ได้แก่ อธิบดีกรมวิชาการ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาหลักสูตร
ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาหนังสือฯ
2.
นักวิชาการ ได้แก่
อาจารย์ในมหาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ
3.
ครู อาจารย์
ศึกษานิเทศก์
4.
นักบริหาร ได้แก่
ผู้บริหารในระดับต่างๆ
5.
บุคคลภายนอก ได้แก่
บุคคลอื่นๆ นอกจากที่กล่าวมาและเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้หลักสูตร
6. หน่วยสนับสนุนการใช้หลักสูตร ได้แก่
- หน่วยผลิตชุดการสอน และวัสดุอุปกรณ์
- หน่วยผลิตสื่อสารการเรียนการสอนอื่น ๆ
- หน่วยนิเทศและประสานงาน
- หน่วยทดสอบและประเมินผลการเรียนในโรงเรียน
- หน่วยแนะแนวในโรงเรียน
- หน่วยผลิตชุดการสอน และวัสดุอุปกรณ์
- หน่วยผลิตสื่อสารการเรียนการสอนอื่น ๆ
- หน่วยนิเทศและประสานงาน
- หน่วยทดสอบและประเมินผลการเรียนในโรงเรียน
- หน่วยแนะแนวในโรงเรียน
การใช้หลักสูตรสถานศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่น
เนื้อหาสาระของหลักสูตรท้องถิ่น แยกได้
4 ประเภท คือ
1. เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพทางภูมิศาสตร์
ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม ศาสนา เศรษฐกิจ ของท้องถิ่น
2. เนื้อหาที่เกี่ยวกับจุดเด่นของท้องถิ่นที่ผู้เรียนควรทราบ
เพื่อให้เกิดความภูมิใจ
3. เนื้อหาที่เกี่ยวกับนโยบาย
วิสัยทัศน์ของท้องถิ่น
4. เนื้อหาที่เกี่ยวกับนโยบาย
ของประเทศที่เกี่ยวข้อง
วิธีนำเนื้อหาท้องถิ่นมาสู่หลักสูตรและการสอน
วิธีนำเนื้อหาท้องถิ่นมาสู่หลักสูตรและการสอน
1. สำรวจสภาพภูมิอากาศ
ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม ศาสนา เศรษฐกิจของท้องถิ่น
โดยได้จากการอ่านเอกสารจากหน่วยงานปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
หน่วยงานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เอกสารในห้องสมุดที่เกี่ยวกับท้องถิ่น
แล้วนำมาวิเคราะห์ สรุป เป็นเนื้อหาสาระของท้องถิ่น
จังหวัดพังงา
จังหวัดพังงา
1. จุดเด่นของจังหวัดพังงาที่จะมาใส่ในหลักสูตรท้องถิ่น
สรุปได้ดังนี้
1) ภาคภูมิศาสตร์ จังหวัดพังงามีเนื้อที่ประมาณ
4,171
ตารางกิโลเมตร
และมีพื้นที่ที่เป็นป่าชายเลนและป่าดงดิบคิดเป็นร้อยละ 57 ของพื้นที่ทั้งหมด
โดยมีพื้นที่ติดต่อเรียงตามเข็มนาฬิกาดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดระนอง
- ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่
- ทิศใต้ ติดกับจังหวัดภูเก็ตและทะเลอันดามัน
- ทิศตะวันตก ติดกับมหาสมุทรอินเดียและมีเกาะต่าง ๆ อยู่ในทะเลอันดามันมากถึง 155 เกาะ นับเป็นจังหวัดที่มีจำนวนเกาะมากที่สุดในประเทศไทย
2) ประวัติศาสตร์ จังหวัดพังงาเดิมเชื่อวันว่าชื่อ
"เมืองภูงา"
ตามชื่อเขางาหรือเขาพังงาหรือกราภูงา หรือ พังกา (ภาษามลายู แปลว่า ป่าน้ำภูงา) ตั้งอยู่ในตัวจังหวัดพังงาปัจจุบัน
ในสมัยก่อนเมืองภูงาขึ้นอยู่กับเมืองนครศรีธรรมราช ในสมัยรัชกาลที่ 2 ชื่อของเมืองภูงาได้ปรากฏอยู่ในทำเนียบข้าราชการเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองขึ้นฝ่ายกรมพระสุรัสวดีฝ่ายซ้าย
เมืองภูงานี้อาจจะตั้งชื่อให้คล้องจองกับเมืองภูเก็ต
และเหตุที่เมืองภูงากลายเป็นเมืองพังงานั้น สันนิษฐานกันว่าน่าจะเนื่องมาจากเมืองภูงาเป็นเมืองที่มีแร่อุดมสมบูรร์ มีชาวต่างชาติมาติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมาก และชาวต่างชาติเหล่านี้คงออกเสียงเมืองภูงาเป็นเมืองพังงา เพราะแต่เดิมชาวต่างชาติเขียนชื่อเมืองภูงาว่า Phunga
หรือ Punga อ่านว่าภูงา หรือพังงา
หรือ พังกา ก็ได้
3) ศาสนา ประชาชนในจังหวัดพังงา เป็นคนที่มีสัญชาติไทย
ร้อยละ 98.9
ไม่ได้สัญชาติไทย ร้อยละ 1.1 ชนกลุ่มน้อย ในจังหวัดพังงา
คือ ชาวไทยใหม่ (ชาวเล ชาวน้้า หรือ มอร์แกน)
ซึ่งอาศัยอยู่กระจัดกระจายตามชายฝั่งทะเล และ เกาะในอ่าวพังงา
อยู่อย่างสันโดษประกอบอาชีพประมง พูดภาษาไทยได้ จังหวัดพังงา
เป็นดินแดนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนาน มีการบันทึก และอ้างอิงไว้ในแผน
ที่โลกตั้งแต่ยุคเริ่มต้นคริสตกาล โดยนักเดินเรือชาวอาหรับ
เป็นเส้นทางการแผ่ขยายของพุทธศาสนาจากอินเดีย สู่อาณาจักรไทยในสมัยศรีวิชัยโบราณ
โดยมีเมืองตะกั่วป่า และภูเก็ตเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในทะเลฝั่งอันดามัน ดังนั้นศาสนาพุทธจึงมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต
และความเป็นอยู่ของประชาชน ประชาชนในจังหวัดพังงา นับถือศาสนา พุทธ ร้อยละ 71.01
ศาสนาอิสลาม ร้อยละ 28.66 และศาสนาคริสต์
ร้อยละ 0.26 ศาสนาซิกข์ ร้อยละ 0.05
4) สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดพังงา
1. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
2. เกาะยาว
3. เกาะปันหยี
5) คำขวัญ ได้แก่ : แร่หมื่นล้าน
บ้านกลางน้ำ ถ้ำงามตา ภูผาแปลก แมกไม้จ้าปูน บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร
6) ต้นไม้ประจำจังหวัด : เทพทาโร
(Cinnamomum
porrectum)
7) ประเพณีประจำจังหวัด :
1.งานแห่เทพเจ้าศาลเจ้าม่าจ้อโป๋
เป็นงานเฉลิมฉลองที่ชาวพังงาเชื้อสายจีนได้ร่วมกันจัดขี้นในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคมของทุกปี
งานนี้จะจัดขึ้นบริเวณริมถนนสายใน ในเขตตำบลถ้ำน้ำผุดใกล้กับตลาดใหญ่
ชาวเมืองจะนำรูปปั้นของเจ้าแม่ใส่เกี้ยวโบราณแล้วเดินขบวนแห่ไปรอบเมืองร่วมกับการแห่สรรพวุธประจำเทพต่างๆ
ในศาลเจ้าพร้อมกับบรรเลงดนตรีจีนอย่างครึกครื้น เชียนแต่ละองค์จะมีบุคคลิกแตกต่างกันไป ชาวบ้านจะต้อนรับขบวนแห่โดยการตั้งโต๊ะบูชาไว้หน้าบ้าน
ปูผ้าแดงแบบจีน ปักธูปเทียนมีขนมและผลไม้วางไว้บนโต๊ะ
ถ้าเทพเจ้าในร่างทรงหยิบผลไม้หรือขนมของบ้านใดเจ้าของบ้านจะดีใจมาก
เพราะถือว่าเป็นนิมิตที่ดีและจะโชคดีตลอดไป ส่วนในศาลเจ้าจะมีพิธีฉลอง ๗
คืนแต่ละคืนคนทรงจะทำพิธีต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าและการแสดงมหรสพต่างๆ
เช่นการแสดงหนังตะลุง มโนห์รา ลิเกเป็นต้น
2.
งานประเพณีลอยเรือ
เป็นประเพณีของชาวเลเผ่ามอแกน
ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณเกาะสุรินทร์
จัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนเมษายน – พฤษภาคมของทุกปี
ที่บริเวณหมู่บ้านชาวเลบนเกาะสุรินทร์ใต้
เป็นประเพณีการประกอบพีธีฉลองเสาวิญญาณบรรพบุรุษ (เหนียะเอนหล่อโปง)
ในระหว่างนี้ชาวเผ่ามอแกนจะหยุดการทำกิจกรรมต่างๆ
เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในงาน
ในวันงานจะมีการเข้าทรง การเซ่นไว้วิญญาณบรรพบุรุษ การเสี่ยงทาย การเล่นดนตรี
การร่ายรำและการลอย “ก่าบาง”
ซึ่งถือว่าเป็นการลอยความทุกข์และโรคภัยไข้เจ็บให้พ้นไปจากครอบครัวและชุมชน
นอกจากนี้ยังมีชาวเผ่ามอแกนจากที่อื่นๆ ในแถบใกล้เคียงเดินทางมาร่วมงานด้วย
เพื่อมาทำพิธีเซ่นสรวงบูชาวิญญาณบรรพบุรุษให้ช่วยปกป้องคุ้มครองพวกตน
3.งานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดพังงา
กำหนดจัดในวันขึ้น 1-9 ค่ำ
เดือน 9 ของจีน จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมของทุกปี
ระหว่างถือศีลกินผักชาวบ้านจะไปรับอาหารจากศาลเจ้าแต่งกายชุดขาว
มีพิธีกรรมตามความเชื่อ เช่น พิธีลุยไฟ
พิธีบวงสรวงดาวประจำวันทั้งเจ็ด
พิธีสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ
และมีพิธีแห่เจ้ารอบตัวเมืองไปตามถนนต่างๆ เพื่ออวยพรเสริมสิริมงคลให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป
1. ภาษาไทย
|
ภาษาท้องถิ่น(ภาษาใต้) บางส่วนมีใช้แต่พังงา-ภูเก็ต
|
2. คณิตศาสตร์
|
ข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ หาด เกาะ ดินฟ้าอากาศ
ที่ทำกิน อาชีพ สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
|
3. วิทยาศาสตร์
|
วิธีทำเกษตร การดูแลสภาพป่าต่างๆ
|
4. สังคมวิทยา ศาสนาวัฒนธรรม
|
วัฒนธรรมของคน วิถีชีวิตความเป็นอยู่
อาหาร อาชีพ และเศรษฐกิจสังคม
|
5. สุขศึกษา พลศึกษา
|
คุณค่าทางโภชนาการ
|
6. ศิลปะ
|
ดอกไม้ประดิษฐ์จากยางพารา
|
7. การงาน อาชีพ และเทคโนโลยี
|
สภาพทางสังคมในจังหวัดพังงาเป็นสังคมเกษตรกรรม
เพราะอาชีพหลักคือการเกษตร ความเป็นอยู่ของชาวพังงาเป็นแบบเรียบง่าย
|
8. ภาษาต่างประเทศ
|
ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน
|
ก)
ใช้เป็นเนื้อหาสอน เช่น เมื่อสอนเรื่องตนเองและครอบครัวก็ใช้สภาพจริงเป็นเนื้อหา
ข)
ใช้เป็นแบบฝึกหัดให้นักเรียนไปทำ เช่น การประกอบอาชีพของคนในท้องถิ่นมีกี่อาชีพ
อะไรบ้าง
มีผู้ทำร้อยละเท่าไร
ค)
ใช้เป็นโครงงาน ให้นักเรียนไปหาทางแก้ไข
ง)
ใช้ปัญหาเป็นฐาน ให้นักเรียนไปหาทางแก้ไข
จ)
ใช้เป็นประเด็น ให้นักเรียนไปค้นคว้า ตัวอย่างเช่น การทำโครงงานเกี่ยวกับ
ดอกไม้ประดิษฐ์จากยางพารา
ฉ)
ใช้เป็นสถานที่ไปทัศนศึกษา เช่น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดพังงา ตัวอย่าง
เกาะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น